ตั้งใจว่าจะมารีวิวเตรียมตัวซื้อของใช้ต่าง ๆ จากประสบการณ์มือใหม่ของตัวเอง
ที่บางทีซื้อของจนหน้ามืด เตรียมตัวแบบเว่อร์อลังการมาก บางรายการอดเสียดายตังค์ไม่ได้
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับแม่ ๆ ที่กำลังหาข้อมูลอยู่ค่ะ
-------------------------------------------
ขอบอกก่อนว่าเป็นมุมมองส่วนตัวล้วน ๆ นะคะ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณค่า ^^
--------------------------------------------
เริ่มต้นตั้งแต่แรกเลยนะคะ
1. การฝากครรภ์
พอคุณแม่รู้ตัวว่าป้าแดงขาดหาย ตรวจแล้ว 2 ขีดส่วนใหญ่จะชัวร์แล้วค่ะว่ามีน้อง ต้องเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือการฝากครรภ์ เพื่อพบคุณหมอ เช็คความสมบูรณ์ของเด็ก ตรวจ HIV ตรวจโอกาส Down ของลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะหาหมอที่ดีที่สุด เก่งที่สุด ใกล้หรือไกลไม่เกี่ยง
ขอแนะนำค่ะ : เลือกที่ใกล้ สะดวก และเป็นหมอที่เราคลอดด้วยจะดีมากค่ะ เพราะการตรวจทั่วไปไม่ต่างกันมากนัก พบหมอบางทีแปบเดียว แต่ใช้เวลาเดินทางนาน ๆ ก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ ยิ่งอายุครรภ์แก่ ๆ นั่งรถนาน ๆ ไม่สนุกแน่ค่ะ รวมทั้งรพ.ที่คลอดด้วยเพราะไม่รู้ว่าจังหวะนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เลือกที่ใกล้ที่สุดไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
2. การเลือกคุณหมอ กับการผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติ
คำถามคลาสสิคมาก ๆ ที่ถามกันมาทุกยุคทุกสมัยคือการผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติอันไหนดีกว่ากัน
ขอตอบว่า ดีกันคนละแบบค่ะ ผ่าคลอดไม่เจ็บ ไม่ต้องทนทรมานรอเวลามดลูกเปิด (ไอที่เค้าบอกว่าเจ็บปวดเหมือนกระดูหักเป็นสิบ ๆ ท่อนอะไรแบบนี้) บล็อคหลัง เฉือน ๆ ก้อเรียบร้อย เสียวนิดเดียวตอนฉีดยาเข้าหลัง ที่เหลือสบายมาก... แต่ตอนเดินครั้งแรกเจ็บมากกกค่ะ และฟื้นตัวช้ามาก ยิ่งถ้าต้องเลี้ยงลูกเองนี่ ใช้เวลาประมาณนึงเลย แต่คนที่คลอดเอง เดินได้คล่องตั้งแต่วันแรก ๆ แถมนมมาเร็ว ระบบของร่างกายเข้าที่เร็วกว่า คนผ่าคลอดนมจะมาช้า ต้องกระตุ้น บางทีต้องให้ลูกกินนมผงก่อน หลายคนลูกตัวเหลืองต้องไปเข้าตู้อบอีก
แต่จะเลือกคลอดเอง หรือเลือกผ่าคลอด คุณหมอก็สำคัญเหมือนกัน เพราะแต่ละคนสนับสนุนการคลอดที่แตกต่างกันค่ะ ถึงบางคนคุยตอนแรกว่าแล้วแต่เรา แต่หมอคิวทองส่วนใหญ่จะเลือกผ่า เพราะสามารถเซ็ตเวลาได้ ปลอดภัยใช้เวลาไม่นาน สุดท้ายเลยผ่าแทบทุกราย (เพราะฉะนั้นเผื่อ Budget แบบผ่าไว้เลยนะคะ) แต่เอาจริง ๆ สมัยนี้มีอะไรแทรกซ้อนเยอะมาก คนก็มีความรู้มากขึ้น หมอส่วนใหญ่ก็เลือกจะเซฟด้วยการผ่าคลอดไว้ก่อน ใครที่คลอดเองได้ ถือว่าโชคดีสุด ๆ เลยค่ะ ^^
เข้าเรื่องนะคะ หลังจากที่ดูวิชาการมากเลย คราวนี้จะไปที่ลูกบ้างแล้ว จะพยายามลำดับตามความสำคัญและจำเป็นค่ะ (ย้ำคำว่าจำเป็นตัวโต ๆ ด้วย 555)
1. เครื่องปั้มนม
สมัยนี้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำคัญมาก ๆ ค่ะ เครื่องปั้มนมจะเป็นอาวุธคู่กายเราต่อไปอีกนานทีเดียว ไม่ใช่แค่ปั้มให้กิน แต่ปั้มเก็บเป็นสต๊อกอำนวยความสะดวกให้เราได้เยอะ อย่างเวลาที่เราไม่สบายต้องทานยา หรือเวลาที่เราจะหนีเที่ยว เอานมสต็อกมาให้ใช้ได้ค่ะ
ส่วนยี่ห้อ (อันนี้ขอบอกก่อนว่าไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด)
ที่ฮิตกันมาก ๆ ปั้มไฟฟ้า คือ Medela PIS , Medela Freestyle กับ Ameda Lecitin
ส่วนปั้มมือก้อ pegion ไม่ก็ Avent
แต่ละอันมีข้อดีแตกต่างกันค่ะ
ตระกูล Medela ถ้าชอบแบบปั้มนานทนทานก็ PIS แต่พกพาไม่สะดวกฟังก์ชั่นไม่เยอะเท่ากับ Freestyle
Ameda ขึ้นชื่อว่าอึดทน ปั้มนมได้เป็นขวด ๆ แรงดีค่ะ ใครชอบแรง ๆ ก้ออันนี้เลย
ส่วนปั้มมือ ทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ พอ ๆ กันค่ะ ไม่แตกต่างเท่าไหร่ แต่แนะนำนิดนึงว่าตอนเลี้ยงลูกจะค่อนข้างเหนื่อยค่ะ เพราะช่วงแรกลูกจะตื่นไม่เป็นเวลา ปั้มมือเมื่อยมากส่วนตัวไม่ค่อยชอบ เก็บแรงไว้ดีกว่า ตอนปั้มนมถ้าเป็นเครื่องจะช่วยได้มาก เราได้รีแล็กซ์ไปในตัว
ราคาส่วนใหญ่ก็หลักหมื่นอัพ ส่วนตัวเราว่าคุ้มค่ะ ถ้าไม่ใช้ก็ขายต่อได้ราคาไม่ค่อยตก ถ้ามีงบจำกัด แนะนำรอเอฟแม่ ๆ มือ 2 ก็ไม่เสียหาย ของดีราคาถูกยังมีแต่อาจต้องเลือกดี ๆค่ะ บางคนอาจฝากหิ้วก็ถูกลงเยอะค่ะ แต่ต้องเผื่อเรื่องหาอแดปเตอร์กับประกันไว้ด้วย
2. ขวดนม , เครื่องนึ่ง
ช่วงแรกคลอดให้ลูกดูดเต้าแม่ดีที่สุดนะคะ เพราะร่างกายเราจะปรับตามการกระตุ้นของลูกให้เรามีน้ำนมมาพอกับที่ลูกกินค่ะ แต่ขวดนมก็ควรต้องมีติดไว้บ้าง อย่างกรณีของเรา นมมาน้อยไม่พอลูกกิน ต้องตื่นมาปั้มทุก 3 ชั่วโมงเพื่อเก็บนมไว้ให้เค้า
ขวดนมกับเครื่องนึ่งเลยมาพร้อมกันค่ะ บางคนบอกว่าไม่จำเป็นใช้หม้อนึ่งหรือหม้อต้มที่บ้านก็ได้ จริงค่ะ ประหยัดดีด้วย แต่ความสะดวกไม่ค่อยถึงใจเราค่ะ เครื่องนึ่งช่วยให้สะดวกมาก ๆ สามารถเก็บขวดนมไว้ในนั้นได้เลย ส่วนแบบที่เหมาะสม แล้วแต่ชอบเลยค่ะ ไม่แตกต่างกันมาก แต่ถ้าจะเอาให้คุ้มเลือกแบบที่ใหญ่หน่อย เผื่ออนาคตไว้นึ่งนู้นนี้ของลูกได้อีกค่ะ
ขวดนมอันนี้เตรียมไว้ได้ค่ะ แต่เค้าจะโปรดอันไหน ต้องลองดูกับลูกเองค่ะ (เราเยอะมาก ซื้อมาทุกยี่ห้อเลย 555)
คุณลูกตอนแรกดูด Avent ค่ะ ใช้ดี ล้างง่ายคอขวดกว้าง ลูกมีลมน้อยมากเมื่อเทียบกับอันอื่น
พอนมมามากพอก็ปล่อยให้ดูดแต่เต้าไปพักใหญ่ พอต้องกลับไปทำงานก็ให้อันเดิมแต่นางไม่เอาซะแล้ว
เปลี่ยนมาทุกอย่างสุดท้าย Pigeon จุกเสมือนนมแม่ฐานกว้างเอาอยู่ค่ะ (จุก Pigeon เปลี่ยนกับขวด Avent ได้)
เตรียมตัวก่อนคลอดซื้อเก็บตอนโปรโมชั่นตามห้างนะคะ หรือไม่ก็สั่งตามร้านในเวบ หรือที่รับหิ้วราคาถูกกว่ามากค่ะ
ส่วนจำนวนที่จะต้องซื้อ ถ้าเรามีคนช่วยหรือขยันล้างนึ่งก็ไม่ต้องมาก แต่ถ้าเราไม่มีเวลา ซื้อเยอะ ๆก็ได้ค่ะ แช่ตู้เย็นไว้ล้างทีเดียว ไม่เป็นไรค่ะ
3. ผ้าอ้อม & ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
ช่วงลูกยังเล็กช่วงเดือนแรกใช้ผ้าอ้อมผ้าสาลูค่ะเหมาะที่สุด เพราะน้องถ่ายบ่อยและผิวยังอ่อน ไม่ต้องเยอะมากก็ได้ค่ะ เพราะใช้ไม่นาน เราเตรียมไว้ประมาณ 2 โหล เอาอยู่ จะว่าไปยี่ห้อไรก็ใช้ได้หมดนะคะ ขอให้นุ่มและโปร่งไม่อับชื้น ไม่ต้องติดกระแสมากค่ะ ตอนเราหาพวก วาโก้กับ Enfant หรือ Enfant Gold อะไรพวกนี้ (หมดตังค์ไปพอสมควร) พอใช้จริงแล้วแตกต่างกันนิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ วาโก้กับอองฟองนุ่มและโปร่งดีค่ะ Enfant Gold หนาไป ใช้พาดบ่าสำหรับซับเช็ดอะไรพวกนี้ดีกว่า เพิ่มให้อีกอันคือ De bon ราคารองลงมาแต่ใช้ดีไม่แตกต่างกันเลยค่ะ
ซื้อให้ถูกก็แนะนำตามเวบอีกเหมือนเคย หรือจะเป็นงานพวกสหพัฒน์ไรงี้ก้อจะมีค่ะ ซื้อแล้วรู้สึกคุ้มมาก ๆ เดินไปดูในห้างราคาต่างกันเยอะค่ะ
* เพิ่มทริกให้นิดหน่อยสำหรับคนที่คิดว่าใช้ผ้าอ้อมแล้วจะซักไม่ค่อยสะอาด พอลูกอึ๊แล้วให้เอาน้ำฉีดออก แล้วใช้สบู่ตรานกแก้วค่ะ ถูไปตรงรอยเปื้อน แช่ไว้ คราบหายเกลี้ยงเลยค่ะ
สักสองเดือนก็ใช้เป็นผ้าอ้อมสำเร็จรูปแล้ว ทีนี้ก็ต้องแข่งกันระหว่างยี่ห้อทั้งหลาย แนะนำว่าลองใช้ดูก่อน เด็กบางคนแพ้ไม่แพ้ไม่เหมือนกันค่ะ ลูกเพื่อนใช้ได้ทุกยี่ห้อ (ช่วงลูกยังอ่อนเป็นแบบเทปจะสะดวกกว่าค่ะ) แต่ของเราเลือกไม่ได้มาก เพราะมี poko ยี่ห้อเดียวน้องใช้แล้วไม่แดงไม่มีผื่นก็เลยใช้ยาวค่ะ เปลี่ยนเป็นแบบสวมตอนลูกเริ่มดิ้นเริ่มคลานได้มาก แล้วก็ลองใช้อันอื่นบ้างตอนนี้ใช้ Merries แอบประทับใจเพราะเบาและแห้งมาก ใช้มาจนถึงปัจจุบันค่ะ
วิธีประหยัดในการซื้อ ถ้าบ้านมีที่เก็บซื้อตุนเยอะ ๆ เวลาที่มีโปรโมชั่นก็ได้ค่ะ คำนวณกี่อันต่อวัน คูณเดือนกันไป เผื่อไซส์ไว้เลยจะไม่แตกต่างมากค่ะ แต่เผื่อแบบไซส์เล็กขาดไว้ก่อน เพราะบางทีลูกตัวโตขึ้นก็อาจขยับไปไซส์ใหญ่ได้ก่อนค่ะ อ่อ แต่เชคนิดนึงนะคะว่าถูกจริงหรือเปล่า อย่างห้างดอกบัวบางทีติดป้ายเหลืองแต่คำนวนต่อชิ้นไม่ต่างจากป้ายขาวหรือแพงกว่าก็มีนะคะ ^^
4. เสื้อผ้าลูก
อันนี้เป็นตัวดูดเงินอย่างไม่จำเป็นไปเยอะมาก ๆ เพราะอันไหนก้อน่ารักโดนใจคุณแม่ไปหมด ขอแนะนำว่าซื้อแต่พอดีค่ะ เพราะข้อแรก เราควรซักผ้าลูกทุกวัน เพื่อไม่ให้หมักหมม ข้อสอง เด็กโตเร็วมาก ๆ ค่ะ รู้ตัวอีกที NB ก็ยังเอาออกมาใส่ไม่หมด เพราะฉะนั้นเผื่อไซส์ไว้เลยนะคะ 70 , 80 เปลี่ยนไซส์ทุก 3 เดือนไปเลย คุ้มกว่าค่ะ เด็กอ่อนส่วนใหญ่จะนอนทั้งวัน เลือกแบบที่ใส่สบาย สวมใส่ง่ายไว้ก่อน ไม่ต้องหรูหราอะไรมาก ชุดสวยมีไว้ไม่กี่ชุดก็พอค่ะ เพราะช่วงแรกเรายังไม่ควรพาลูกไปไหนมาไหนมาก อย่างมากก็ไปหาหมอฉีดวัคซีนเท่านั้นเอง
ซื้อเสื้อผ้าลูกให้ถูกก้อแนะนำตามเวบเลยค่ะ เดวนี้มีเยอะมากตัดราคากันเองด้วย
5. ถุงมือ ถุงเท้า ผ้าห่อตัว ผ้าเช็ดตัว ผ้ากันเปื้อน
เด็กอ่อนต้องมีถุงเท้าถุงมือและหมวกใส่ตลอดค่ะ แต่ถุงมือ กับหมวกใช้ไม่นานมากค่ะ เพราะจะเบียดบังพัฒนาการน้อง สัก 2 เดือนก็ถอดแล้วค่ะ ของเราถุงมือถุงเท้า 3 คู่ค่ะพอ หมวกแบบยี่ห้อทั้งหลายจะใหญ่ไปนะคะ ซื้อเป็นหมวกไหมพรมตามโลตัส ราคาไม่แพง สวมหัวพอดีค่ะ ถุงเท้าคู่เล็กแบบที่ใส่มือถือก็ใช้ดีค่ะ เวลาน้องถีบไม่หลุดง่ายดี
ผ้าห่อตัว ซื้อผืนเดียวพอค่ะ แทบไม่ต้องใช้เลย จำได้ว่าใช้ครั้งเดียวตอนที่กลับจากโรงพยาบาล หลังจากนั้นก็เป็นผ้าเช็ดตัวตลอดค่ะ ผ้าเช็ดตัวสาลูก็ใช้ดีไม่มีฝุ่นผ้า แต่แห้งเร็วไม่สู้ผ่านาโนเนื้อนิ่ม ๆ เช็ดแล้วแห้งเลย ซื้อตามตลาดนัดก็ได้ราคาไม่แพงค่ะ ผ้ากันเปื้อนใช้ตอนน้องโตสัก 6 - 7 เดือน ยังไม่ต้องรีบนะคะ เราซื้อไว้เยอะ พอโตมาก็ติดรอบคอน้องซะแล้ว
6. เตียง / เปล / เพลเพน / ที่นอน /หมอน / ผ้าห่ม / มุ้ง
เตียง :
เตียงเด็กเป็นอุปกรณ์ในฝันที่อยากให้ลูกมาก แต่ขอบอกว่า ถ้าไม่ได้เลี้ยงลูกแบบฝรั่งจริง ๆ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ ด้วยประสบการณ์ของคุณแม่มือใหม่ที่ออกจะติดลูกและเห่ออยู่หน่อย ๆ ช่วงกลางคืนเอาเค้ามานอนด้วยเป็นไรที่สุขที่สุดแล้วค่ะ แถมช่วงแรกน้องตื่นบ่อย เรากล่อมได้ ตบตูด หรือถ้าใครสามารถนอนให้นมได้จะเป็นไรที่สบายมาก ยิ่งตอนกลางคืนดึก ๆ ช่วยเซฟแรงคุณแม่ได้มาก ๆ ค่ะ (แต่ต้องพยายามไม่หลับก่อนลูกอิ่ม เพราะนมอาจปิดจมูกน้องขาดอากาศหายใจได้ค่ะ) ในใจก็คิดว่าเดี๋ยวค่อยย้าย ๆ รู้ตัวอีกทีลูกก็ไม่ยอมนอนแยกซะแล้ว (ซึ่งจะแยกได้ง่ายอีกทีก็ตอนน้องโตนู้นล่ะค่ะ) แต่คุณแม่ที่ใช้แล้วคุ้มก็มีนะคะ แบบว่าถึงเวลานอนเอาน้องลงเตียง แยกห้อง ดูจากเบบี้มอนิเตอร์ ร้องก้อไปป้อนนมแล้วปล่อยให้หลับเอง สบายเหมือนกัน แล้วก็ง่ายตอนที่จะอดนมมื้อดึกด้วย แต่ต้องใจแข็งฝึกน้องแต่เนิ่น ๆ ค่ะ
เพลเพน :
อันนี้คุณแม่หลายคนก็เอาไว้ให้ลูกนอนตอนกลางวันได้ แต่พื้นที่นอนมันค่อนข้างนุ่มนิ่มค่ะ เรารู้สึกว่ามันจะแอ่นนิด ๆ ด้วย ตอนแรกเกิดเลยไม่ให้น้องนอนเลย พอน้องเริ่มคลาน เกาะยืน เอามาใช้ขังลูกไว้บ้างได้อยู่ค่ะ แต่จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นในระยะยาวทำคอกให้น้องเลยเวิร์คสุด สำหรับเราอันนี้ใช้ประโยชน์ได้น้อยที่สุดค่ะ
ที่นอน หมอน ผ้าห่ม :
สำหรับเราตอนกลางวันให้ลูกนอนพื้นนะคะ ค่อนข้างลงทุนกับที่นอนนิดนึง เพราะกลัวเรื่องที่นอนนิ่มไปอุดจมูกลูก ยี่ห้อที่เค้าว่ากันทั้งหลายก็ตามนั้นเลยค่ะ เลือกที่แน่นๆหน่อย (ใช้ได้นาน ขายต่อได้ราคาด้วยค่ะ) หมอนแทบไม่ได้ใช้ค่ะ ใช้ผ้าปูพอ หรือบางทีก็ไม่มีผ้าเลย ส่วนผ้าห่มก็เน้นเป็นผ้านาโน ที่ไม่หนาหรือไม่บางเกินไปค่ะ เราเปลี่ยนทุกวัน
สรุปคือ ที่นอน 1 หมอนไม่ต้อง ผ้าห่มประมาณ 5 ผึน (เพื่อซักเผื่อพันเหมือนหมอนข้างไว้ดันตัวน้องได้ค่ะ)
มุ้ง :
สำหรับเราอันนี้จำเป็นมากค่ะ เพราะถึงแม้จะอยู่ในบ้าน ติดมุ้งลวด ใช้ไม่ตี แต่ก้อจะต้องมีหลุดรอดมากัดลูกเราจนได้ ยิ่งตอนกลางวันน่ากลัวมาก ๆ ค่ะ ใช้มุ้งครอบอันใหญ่หน่อย ไม่กี่ร้อยค่ะ
เกือบลืม หมอนให้นม
ถามกันมากว่า Item นี้จำเป็นไหม สำหรับเรา ผ่าคลอดและมือใหม่ให้นมน้อง จำเป็นค่ะ เพราะช่วยรับน้ำหนักน้อง ตอนที่เราเอาเข้าเต้า เราไม่เมื่อยไม่เจ็บแผลด้วย ยิ่งถ้าบางคนหัวนมสั้นต้องให้นมลูกท่าลูกฟุตบอล หมอนช่วยได้มากค่ะ แต่ไม่ต้องแพงมากนะ เพราะไม่นานเราจะมีความชำนาญก็ไม่ต้องใช้แล้วค่ะ เลือกขนาดที่พอเหมาะ ใหญ่หน่อยก็ดีค่ะ บางทีเค้าก็หลับบนหมอนเลย จับไปวางนอนต่อได้สบาย
ถ้าไม่ถือลองดูของมือสองก็ได้นะคะ ส่วนใหญ่ใช้กันไม่นานค่ะ
7. อุปกรณ์อาบน้ำแต่งตัว
กะละมังอาบน้ำ / ฟองน้ำ :
การอาบน้ำเป็นเรื่องไม่ง่ายของคุณแม่มือใหม่แน่นอน แต่ขอบอกก่อนเลยค่ะว่าของพวกนี้มันเหมือนมีสัญชาตญาณค่ะ ไม่นานเราจะมีความชำนาญเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ช่วยอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ มากเกินไปนะคะ มันจะจำเป็นไม่นานค่ะ (แถมพอลูกเริ่มโต เกาะยืนแล้วก็อาบฝักบัวได้เลย) ตอนแรกซื้อแบบที่สามารถเปิดน้ำออกได้ ไม่ต้องเท แต่ถึงเวลาจริง ๆ ไม่สะดวกค่ะหนักด้วย ซื้อกะละมังแบบเบา ๆ เลยมาใช้ สะดวกกว่าค่ะ แนะนำตัวช่วยคือฟองน้ำนะคะ (เลือกแบบที่เป็นธรรมชาติแพงหน่อยในเซนทรัลก็มี แต่ซื้อแล้วใช้ได้นานค่ะ) ใช้ชุบน้ำแล้วบีบ มันจะทำให้เราสามารถล้างตัวลูกได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสระผมค่ะ
สบู่ /ยาสระผม / ครีมทาตัว / แป้ง :
ช่วงลูกแรกคลอดใหม่ ๆ จะเป็นผื่นที่หน้าแทบทุกคนค่ะ ย้ำว่าแทบทุกคนนะคะ พอเริ่มโตจะหายไปเอง เพราะฉะนั้นแม่ ๆ ไม่ต้องกังวลหาซื้อครีมไว้หลายอัน ส่วนใหญ่เราใช้ไม่หมดหลอดค่ะ และเรามักจะได้รับพวก Gift Set มาจากคนเยี่ยม แนะให้ลองใช้จากพวกนี้ก็ได้ค่ะ มันไม่แตกต่างกันมากนัก Organic ไม่ Organic จะทาออยล์ ทาครีม หรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวน้องเลยค่ะ เดินทางสายกลางไว้ดีกว่า ถ้าน้องแพ้ก็เป็นอันเลิกใช้ ถ้าน้องไม่มีผิวลอกผิวแห้ง ก็ไม่จำเป็นต้องหาครีมหรือออยล์มามากมายนักค่ะ
ส่วนเรื่องแป้ง คุณหมอแนะนำมาก ๆ ว่าไม่ควรใช้แป้งเด็กทั่ว ๆ ไปเพราะจะมีละอองที่เข้าจมูกลูก และไม่จำเป็นต้องใช้เลย และจากประสบการณ์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ ค่ะ แต่เราก็จิ้นไปเองว่า ลูกอาจไม่สบายตัว เลยจัดแป้งพวกที่ไม่มีทัลคัมสักหน่อย พยายามไม่ทาใกล้จมูก ก็โอเคค่ะ หรืออาจจะใช้เป็นครีมแป้ง ยี่ห้อของเกาหลีก็ใช้ดีแต่ราคาแพงอยุแต่ใช้ได้นานค่ะ หรือไม่ก็โคโดโมะก็ได้
อุปกรณ์เสริม Must Have
เบบี้มุฮิ :
มือใหม่อาจะสงสัยค่ะว่ามันคืออะไร มันคือครีมไว้แต้มจุดที่ลูกโดนยุงกัด (สรรพคุณอื่นอาจจะมี แต่ไม่แน่ใจ รอคนมาเสริมนะคะ) อันนี้ดีตรงที่ทาแล้วไม่แสบร้อน และไม่เป็นรอยดำเมื่อเทียบกับครีมอื่น ๆ แล้ว ต้องฝากซื้อกับพวกร้านพรีนะคะ หลอดนึงใช้ได้นานมากก
sudocrem :
ตัวนี้จะเหนียวหน่อย แต่ใช้ทากันผื่นผ้าอ้อมได้ชะงัดมากค่ะ พอเห็นรอยแดง ๆ ที่ก้นก็โบกไปเลย กระปุกไม่ต้องใหญ่มากก็ได้ค่ะ ตอนนี้น้อง 9 เดือนยังไม่หมดปุกเลย พอน้องเริ่มโตก็ไม่เป็นผื่นแล้ว
บีเพนเทน :
อันนี้เอาไว้ใช้ทาที่จิมิ๊ หรือโจ๊ะโม๊ะ หรือแถว ๆ ตรูดของน้องเวลาอับชื้นแล้วแดง ๆ ค่ะ ไม่นานก็จะหาย แต่แนะนำว่าถ้าแดงเมื่อไหร่เปิดผ้าให้ลมโกรกหน่อยเป็นวิธีที่ดีและหายเร็วที่สุดค่ะ
มหาหิงค์ :
จะยี่ห้อไหนก็ได้ค่ะ แต่เลือกแบบที่มีแอลกอฮอล์น้อยหน่อย กลัวน้องแสบผิว ทาไปแปบ ๆ เรอเอิ้กเลยค่ะ เป็นไรที่ขาดไม่ได้จริง ๆ
กรรไกรตัดเล็บ :
ตอนน้องออกมาเล็บจะยาวมากค่ะ มือใหม่ใช้แบบกรรไกรก่อนนะคะ ไม่ต้องแพงมาก็ได้โลตัสทั่วไปก็มีค่ะ พอชำนาญหน่อย แนะนำเปลี่ยนไปใช้แบบที่ตัดของผู้ใหญ่ เล็บน้องสวยจะไม่บานค่ะ
หวีแปรง :
ถ้าลูกใครผมน้อย Item นี้ก็ผ่านไปค่ะ แต่ถ้าผมเยอะ ใช้ดีมาก เลือกแบบที่ขนนุ่มหน่อย เหมาะกับหัวอ่อน ๆ ของเค้าค่ะ
ปรอทวัดไข้ :
พอมีเด็กในบ้านแล้วอันนี้จำเป็นต้องมีติดไว้ค่ะ เพื่อความชัวร์ ใช้เป็นแบบดิจิตอลแปะก็ได้ จิ้มที่หูก็ได้สะดวกดีค่ะ เพราะบางทีลูกจะดิ้น ๆ ๆ ทำให้วัดได้ยาก แต่ส่วนใหญ่จะต้องใช้จริง ๆ ก็ตอนเฝ้าระวังหลังฉีดวัคซีนนะคะ
8. รถเข็น / Carseat
Carseat
Item นี้จำเป็นมากๆ ค่ะ เพื่อความปลอดภัยของลูก บางคนขับช้าระวังสุด ๆ เกือบถึงบ้านแล้วแต่มีรถพุ่งมาชนก็มี แล้วส่วนใหญ่เด็กก็จะเจ็บมากกว่าผู้ใหญ่ด้วย และมีข้อดีอีกอย่างคือเป็นการฝึกให้ลูกนั่งในที่ของเค้า ถ้าใช้แต่เด็กเค้าจะชิน และไม่อาละวาดเวลาโตไป เราจะได้ไม่ต้องอุ้มให้เมื่อยมือด้วยค่ะ ราคาอาจจะสูงหน่อย (เพราะฉะนั้นเริ่มท้องก็เริ่มเก็บตังค์ไว้ซื้อเลย) แบบมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบที่นั่ง แบบกระเช้า แบบกระเช้าใช้ได้สะดวกตอนลูกเล็ก ๆ อย่างเวลาพาลูกไปทานข้าวนอกบ้าน ก็สามารถถอดเอาไปวางในร้านอาหารได้เลย แต่ก็เป็นช่วงเวลาไม่นานค่ะ ไม่กี่เดือนจริง ๆ ถ้าจะให้คุ้มแนะนำแบบเป็นที่นั่งแยกไปเลย เลือกแบบที่สามารถนั่งได้ตั้งแต่แรกเกิด น้องยังคอไม่แข็งก็ไม่เป็นไร เราสามารถหาซัพพอร์ทเพิ่มเติม หรือ พวกหมอนรองคอมาเสริมได้ค่ะ มีข้อดีให้พิจารณานิดนึงคือ ของพวกนี้ถ้าเป็นยี่ห้อตลาดขายต่อได้ราคานะคะรักษาให้ดีหน่อย แต่ถ้างบมีไม่มาก เลือกยี่ห้อรองลงไปก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ แต่อาจจะขายต่อยากกว่า
รถเข็น
ไอเทมนี้รองลงมาหน่อยค่ะ เพราะยังไม่จำเป็นมากในช่วงแรก ๆ แต่จะเริ่มจำเป็นเวลาที่เราจะเอาลูกไปไหนมาไหนด้วย เหมือนกับ Carseat ถ้าเราสามารถฝึกให้เค้านั่งรถเข็นได้ เวลาคุณแม่ไปเดินซื้อของ ไปนอกบ้าน หรือที่ไหนก็ตามแต่ จะสะดวกกับเรามากค่ะ ตอนเด็ก ๆ อาจจะบอกว่าอุ้มได้ แต่ไม่กี่เดือนน้ำหนักน้องจะมากเป็นสิบโล ลองนึกภาพก็หนักแล้วค่ะ รถเข็นมีให้เลือกหลายแบบหลายราคาค่ะ เราเลือกแบบที่นั่งได้ตั้งแต่แรกเกิดมาเผื่อ แต่ปรากฎว่าช่วงแรกใช้น้อยมาก ฟังก์ชั่นนั้นเลยไม่ค่อยจำเป็นค่ะ มาใช้รถเข็นมากจริง ๆ ก็ตอนที่เริ่มโตหน่อยแล้ว อุปกรณ์เสริมที่ช่วยได้คือพวกของเล่น หรือโมบาย อันนี้หลอกได้จริง ๆ นะคะ ต้องมีติดรถเลยค่ะ Item นี้เราว่ามีสัก 2 กำลังดีค่ะ คันใหญ่นั่งสบาย กับคันเล็กเบา ๆ เอาไว้สลับใช้หรือใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ กันค่ะ
ของพวกนี้หาได้เยอะและลดราคาต้องไปดูตามงาน BBB หรืองานลดราคาของพวกสินค้าเด็กต่าง ๆ ค่ะ (วงเล็บว่าถ้ามีแรงฝ่าคนนะคะ)
เพิ่มเป้อุ้มให้อีกอย่าง
เราไม่ได้ใช้อันนี้ค่ะ เพราะที่บ้านเราเป็นบ้านใหญ่มีกันหลายคน สลับกันอุ้มสนุกดี แต่ถ้าเป็นครอบครัวเดี่ยว เป้อุ้มก็มีประโยชน์ เพราะจะมีช่วงนึงที่ลูกติดเรามาก ถ้าเป็นแม่บ้านอยู่บ้านคนเดียว เอาลูกใส่เป้ ทำนู้นทำนี้ได้สบายค่ะ หรือบางทีให้คุณพ่อสะพายเวลาออกไปข้างนอก ก็สะดวกรวดเร็วกว่ารถเข็น แต่ต้องดูลูกด้วยนะคะ บางคนไม่โปรดเป้ก็มี ต้องเลือกดูค่ะ
ขอบคุณข้อมูล คุณ aomygirl Pantip ดอทคอม http://pantip.com/topic/31086392
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น